admin advanced law

หน้า: ()   1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18 ...19   ()
รูปภาพของadmin advanced law
ความรู้กฎหมายทั่วไป by อ.เกด, อ.พิชัย ไลน์ 0862310999 -> กรณีศึกษาจากคำพิพากษาฎีกาที่ 1184/2565 ให้รหัสผ่านของธนาคารแก่ลูกจ้าง...
โดย admin advanced law - อังคาร, 25 เมษายน 2023, 09:06AM
 
กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184-1187/2565
-
โจทก์ร่วมเปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารให้รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านแก่โจทก์ร่วม ซึ่งโจทก์ร่วมใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝาก รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านบนโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ตในการชำระค่าสินค้าค่าบริการ ชำระหนี้อื่นแทนการชำระเงินสด ใช้โอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ร่วมไปยังบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่น ใช้ในการเบิกถอนเงินสด หรือใช้ในธุรกรรมอย่างอื่น ถือได้ว่าเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามความหมายของมาตรา 1 (14) (ข) แห่ง ป.อ.ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้ และรหัสผ่านที่โจทก์ร่วมได้รับมา เป็นข้อตกลงระหว่างธนาคารและโจทก์ร่วมในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยโจทก์ร่วมต้องเก็บรักษาเป็นความลับของตนมิให้ผู้ใดล่วงรู้ การที่โจทก์ร่วมให้จำเลยที่ 2 ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยการบอกข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านแก่จำเลยที่ 2 ในฐานะลูกจ้าง ก็เพื่อให้ทำธุรกรรมบนโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ตแทนโจทก์ร่วมให้เป็นไปตามที่โจทก์ร่วมสั่งหรือมอบหมายให้ทำ หาใช่นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้เกินกว่าที่โจทก์ร่วมสั่งหรือมอบหมายให้ทำไม่ การที่จำเลยที่ 2 ใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านของโจทก์ร่วมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ร่วมไปยังบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 โดยโจทก์ร่วมไม่ได้สั่งหรือมอบหมายให้ทำ ย่อมเป็นการทำโดยไม่มีอำนาจและโจทก์ร่วมไม่ได้ยินยอม ทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายสูญเสียเงินฝากในบัญชี จึงเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของโจทก์ร่วมโดยมิชอบ
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184-1187/2565

ข้อสังเกตจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184-1187/2565
กรณีตามคำพิพากษาศาลฎีกานี้ ในประเด็นการให้ความยินยอมในการใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อให้จำเลยที่เป็นลูกจ้างไปทำงานตามกระบวนการดำเนินธุรกิจของโจทก์ร่วมในเวลาต่อมาเมื่อจำเลยใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านของโจทก์ร่วมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ร่วมไปยังบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 โดยโจทก์ร่วมไม่ได้สั่งหรือมอบหมายให้ทำ ย่อมเป็นการทำโดยไม่มีอำนาจและโจทก์ร่วมไม่ได้ยินยอม ทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายสูญเสียเงินฝากในบัญชี จึงเป็นความผิดฐาน 1.ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของโจทก์ร่วมโดยมิชอบ 2.ความผิดฐานลักทรัพย์ นายจ้าง 3.ความผิดฐานลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการเบิกถอนเงินสดโดยมิชอบ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
-
สอบถามปัญหาการเรียนกฎหมายได้ที่ อาจารย์ ดร.พิชัย โชติชัยพร
อีเมล์ altlimited@yahoo.com
www.advancedlaw9.com
-


รูปภาพของadmin advanced law
ความรู้กฎหมายทั่วไป by อ.เกด, อ.พิชัย ไลน์ 0862310999 -> กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6083/2546 ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้
โดย admin advanced law - อังคาร, 25 เมษายน 2023, 08:56AM
 
กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6083/2546
-
ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงจิตใจอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
เพราะจำเลยกับผู้ตายมีความสัมพันธ์กันฉันคนรัก แต่ผู้ตายต้องการเลิกความสัมพันธ์กับ
จำเลยไปมีรักกับผู้ชายคนใหม่ จำเลยจึงบันดาลโทสะฆ่าผู้ตายนั้น
เห็นว่า “ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริง
คือความปรารถนาดีต่อคนที่ตนรัก ความยินดีที่คนที่ตนรักมีความสุข การให้อภัย
เมื่อคนที่ตนรักทำผิดและการเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขของคนที่ตนรัก
จำเลยปรารถนาจะยึดครองผู้ตายเพื่อความสุขของจำเลยเอง เมื่อไม่สมหวัง
จำเลยก็ฆ่าผู้ตาย เป็นความผิดและการกระทำที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของจำเลย
โดยฝ่ายเดียวมิได้คำนึงถึงจิตใจและความรู้สึกของผู้ตาย หาใช่ความรักไม่ ทั้งเป็น
ความเห็นผิดที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ดังนี้ แม้จะฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลย
ฎีกาก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม กรณี
ไม่มีเหตุจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษ
ประหารชีวิต และลดโทษให้จำเลยแล้ว คงลงโทษจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียวนั้น
ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น"
-
ข้อสังเกตจากคำพิพากษาศาลฎีกา (โปรดอ่านคำพิพากษาฉบับยาว จากระบบ
สืบค้นฯ มิติที่ 1)
กรณีตามคำพิพากษาศาลฎีกานี้ จำเลยต่อสู้ในหลายประเด็น ประเด็นที่อ้างถึง
ข้างต้น เป็นกรณีที่จำเลยอ้างว่า ฆ่าผู้ตายเพราะเหตุบันดาลโทสะ ซึ่งถ้าศาลพิจารณาแล้ว
เห็นว่า เป็นการบันดาลโทสะอันเป็นเหตุที่กฎหมายให้อำนาจศาลพิจารณาลดโทษให้ได้
ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ที่บัญญัติว่า "ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหง
อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะ
ลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้"
แต่ในคดีนี้เมื่อศาลเห็นว่าข้อกล่าวอ้างจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตาม
ศาลล่างทั้งสองที่ลงโทษประหารชีวิต และได้ลดโทษให้จำเลย คงลงโทษจำคุก
ตลอดชีวิต.
-
สอบถามปัญหาการเรียนกฎหมายได้ที่ อ.พิชัย โชติชัยพร
อีเมล์ altlimited@yahoo.com
-


รูปภาพของadmin advanced law
ความรู้กฎหมายทั่วไป by อ.เกด, อ.พิชัย ไลน์ 0862310999 -> กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11029/2553 ผู้มีวิชาชีพต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าบุคคลทั่วไป
โดย admin advanced law - อังคาร, 25 เมษายน 2023, 08:55AM
 
กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11029/2553 ผู้มีวิชาชีพต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าบุคคลทั่วไป
-
คำพิพากษาในคดีนี้ ธนาคารซึ่งหมายความรวมถึงพนักงานของธนาคารผู้ทําหน้าที่ตรวจรับเช็คและอนุมัติจ่ายเงินควรที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และพิจารณา ด้วยความรอบคอบ ในคดีนี้มีการเบิกเงินจำนวนมากผิดปกติ พนักงานควรที่จะสงสัยถึงขนาดที่ และควรจะสอบถามเรือนจํากลางชลบุรี ผู้สั่งจ่าย เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นจึงถือได้ว่า ธนาคารมีส่วนผิด เป็นการผิดสัญญารับฝากเงินและเป็นละเมิด ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
เป็นกรณีศึกษาคดีหนึ่งที่ผู้มีวิชาชีพต้องระมัดระวังในการทำงาน ในคดีทางการแพทย์หลายคดี แพทย์ผู้ทำการรักษาหากประมาทเลินเล่อในการทำงาน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ เช่น การซักประวัติผู้ป่วย การรักษาผู้ป่วยตามมาตรฐานแพทย์ หรือการเข้าตรวจอาการผู้ป่วยโดยตรง เป็นต้น
-
คำพิพากษาฎีกาที่ 11029/2553
จําเลยที่ 1 ทุจริตยักยอกเงินของโจทก์โดยเพิ่มเติมจํานวนตัวเลขและตัวหนังสือในเช็คเงินสดที่เรือนจํากลางชลบุรีสั่งจ่ายในนามของจําเลยที่ 1 เพื่อให้ จําเลยที่ 1 นําไปเบิกถอนเงินมาจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ แต่จําเลยที่ 1 ใช้เช็คขอเบิกเงินสดถึง 15,558,406 บาท เป็นการใช้เช็คเบิกเงินสดที่มากผิดปกติ เช่นนี้ โดยหน้าที่ตามสัญญาฝากเงินตาม ป.พ.พ.มาตรา 659 วรรคสาม และตามระเบียบภายในของธนาคารจําเลยที่ 2 พนักงานผู้ทําหน้าที่ตรวจรับเช็คและอนุมัติจ่ายเงินควรที่จะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และพิจารณา ด้วยความรอบคอบ และควรที่จะสงสัยถึงขนาดที่ควรจะสอบถามเรือนจํากลางชลบุรี ผู้สั่งจ่าย ว่าได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินจํานวนมากดังกล่าวให้จําเลยที่ 1 มาเบิกเงินสดไปจริงหรือไม่ การที่ พนักงานของจําเลยที่ 2 ไม่ได้สอบถามผู้สั่งจ่าย และยอมจ่ายเงินตามที่ระบุในเช็คดังกล่าวไป ถือได้ว่าเป็นการละเว้นไม่กระทําการที่จะต้องกระทํา เป็นการผิดสัญญารับฝากเงินและเป็นละเมิดด้วย
-
ผู้หมายเหตุ
ดร.พิชัย โชติชัยพร (Notarial Services Attorney)
Tel./Line 0862310999
Advanced Legal Law Office
-
www.advancedlaw9.com
-

รูปภาพของadmin advanced law
ความรู้กฎหมายทั่วไป by อ.เกด, อ.พิชัย ไลน์ 0862310999 -> กรณีศึกษาจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6114/2540 เขียนสัญญาไม่ครอบคลุมความรับผิดไว้ ฟ้องไม่ได้
โดย admin advanced law - อังคาร, 25 เมษายน 2023, 08:49AM
 
ข้อสังเกตจากคำพิพากษาฎีกาฉบับนี้
ในการทำสัญญาต้องให้ผู้มีความรู้จัดทำสัญญาที่มีความละเอียด ชัดเจนและบังคับได้ครอบคลุมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น กรณีตามคำพิพากษาฎีกานี้ เป็นกรณีจําเลยผิดสัญญาฯ แล้ว แต่ไม่ถือว่าเป็นการทําละเมิดต่อธนาคารตามป.พ.พ. มาตรา 420 เพราะในสัญญาไม่มีระบุว่าหากจําเลยผิดสัญญาจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นจํานวนเท่าใด จึงเป็นเพียงสัญญาให้บริการแก่ธนาคารเพื่อช่วยป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินของธนาคารอีกทางหนึ่ง ไม่ใช่สัญญาที่จําเลยตกลงยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่ธนาคารในกรณีทรัพย์สินถูกโจรกรรม ธนาคารและผู้รับช่วงสิทธิจึงไม่มีสิทธิฟ้องจําเลยเพื่อเรียกค่าเสียหายตามจํานวนเงินที่ถูกคนร้ายลักไป
-
คำพิพากษาฎีกาที่ 6114/2540
จําเลยทําสัญญากับธนาคารรับเป็นผู้ประสานงานในการส่งข้อมูลของธนาคารจากเครื่องส่งสัญญาณไปยังสถานีตํารวจด้วยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อขอความช่วยเหลือที่รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ เมื่อเครื่องส่งสัญญาณของจําเลยที่ติดตั้งไว้ที่ เครื่องบริการเงินด่วนของธนาคารส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ของจําเลยเพราะถูก คนร้ายงัดทําลายแต่เจ้าหน้าที่ของจําเลยละเลยไม่แจ้งเหตุต่อไปยังสถานีตํารวจ เพื่อขอความ ช่วยเหลือ ถือว่าจําเลยผิดสัญญาแต่ไม่ถือว่าเป็นการทําละเมิดต่อธนาคารตามป.พ.พ. มาตรา 420 แต่สัญญาไม่มีระบุว่าหากจําเลยผิดสัญญาจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นจํานวนเท่าใด จึงเป็นเพียงสัญญาให้บริการแก่ธนาคารเพื่อช่วยป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สิน ของธนาคารอีกทางหนึ่ง ไม่ใช่สัญญาที่จําเลยตกลงยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่ธนาคารในกรณีทรัพย์สินถูกโจรกรรม ธนาคารไม่มีสิทธิฟ้องจําเลยเพื่อเรียกค่าเสียหายตามจํานวนเงินที่ถูกคน ร้ายลักไป โจทก์ซึ่งใช้ค่าเสียหายให้แก่ธนาคารเจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยไปแล้วย่อมไม่อาจรับช่วงสิทธิของธนาคารมาฟ้องเรียกให้จําเลยรับผิดต่อโจทก์ตามป.พ.พ. มาตรา 880 วรรคแรกได้
-
ผู้หมายเหตุ
ดร.พิชัย โชติชัยพร (Notarial Services Attorney)
Tel./Line 0862310999
Advanced Legal Law Office
-
www.advancedlaw9.com
-

รูปภาพของadmin advanced law
ความรู้กฎหมายทั่วไป by อ.เกด, อ.พิชัย ไลน์ 0862310999 -> ระวังนะ จอดรถโดยติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ รถสูญหาย ประกันไม่จ่ายให้นะจ๊ะ
โดย admin advanced law - จันทร์, 3 เมษายน 2023, 03:21PM
 
ระวังนะ จอดรถโดยติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ รถสูญหาย ประกันไม่จ่ายให้นะจ๊ะ
-

กฎหมายเกี่ยวกับการประกันวินาศภัย มีการกำหนดข้อยกเว้นว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในความวินาศภัยที่เกิดขึ้นเพราะความทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ (ตามมาตรา 879 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)

มาตรา 879 "ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์

ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในความวินาศภัยอันเป็นผลโดยตรงมาแต่ความไม่สมประกอบในเนื้อแห่งวัตถุที่เอาประกันภัย เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น"

มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1305/2559 ได้วินิจฉัยตัดสินไว้ว่า "พฤติกรรมของโจทก์ที่จอดรถโดยติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้แล้วลงจากรถไปซื้อของ เป็นการขาดความระมัดระวังในการใช้ทรัพย์ หากโจทก์ใช้ความระมัดระวังตามสมควรโดยดับเครื่องยนต์และล็อคประตูรถยนต์ให้เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าคนร้ายไม่สามารถลักรถยนต์ของโจทก์ไปได้โดยง่าย เหตุที่คนร้ายลักรถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยไว้เกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของโจทก์ซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัย จำเลยในฐานะผู้รับประกันภัยจึงไม่ต้องรับผิดในความสูญหายของรถยนต์ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 897 วรรคหนึ่ง"

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าพฤติการณ์อย่างใดเป็นประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ต้องอาศัยข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ประกอบเป็นเรื่องๆ ไป ไม่ใช่ว่าการติดเครื่องรถไว้ในขณะลงไปซื้อของจะเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายร้ายทุกกรณีแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็แล้วแต่ หากจะลงไปซื้อของก็ควรจอดรถดับเครื่องยนต์ล็อคประตูให้เรียบร้อยจะเป็นการดีที่สุดนะจ๊ะ

-
ความรู้กฎหมาย โดย อ.เกด ศิวาพร
-ติวเตอร์ประจำสถาบันสอนเสริมกฎหมาย Advanced Law
-ติวกฎหมาย ป.ตรี ติวเนติฯ ติวทนายความ
-ติวส่วนตัว (PRIVATE TUTOR) , ติวกลุ่มเล็ก
-สถาบันติวกฎหมายแห่งเดียวที่มีการรับรองผลจนสอบผ่านหลักสูตรกฎหมายทุกหลักสูตร
-ติดต่อสอบถาม/ขอคำแนะนำการเรียนกฎหมายได้ฟรีที่
Email : lawyer_ram@hotmail.com
Website : www.advancedlaw9.com
Facebook : สถาบันสอนเสริมกฎหมาย Advanced Law

หน้า: ()   1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18 ...19   ()