≤≤ หมายเหตุท้ายคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4450s/2552 เรื่อง
ความผิดหลายกรรมต่างกัน
- การที่จำเลยพาผู้เสียหายไป เพื่อการอนาจารและหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ 1 วัน
ก่อนข่มขืนกระทำ
ชำเรา เป็นการแสดงเจตนาส่วนหนึ่งของจำเลย
โดยมีเหตุจูงใจที่จะนำตัวผู้เสียหายไปกักขังไว้เพื่อ
ข่มขืนกระทำชำเรา
อันเป็นการกระทำส่วนหนึ่งที่สำเร็จไปแล้วต่างหากจากการที่จำเลยข่มขืน
กระทำชำเรา เป็นความผิดฐานพาหญิงไปเพื่ออนาจารและหน่วงเหนี่ยวกักขังกระทงหนึ่ง
ฐานข่มขืน
กระทำชำเราอีกกระทงหนึ่ง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน หมายเหตุโดย อ.อาคม
รุ่งแจ้ง อ่านต่อ...
≤≤ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ มาตรา 219 วรรคสอง
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม
มาตรา 23 วรรคหนึ่ง
และระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการไม่รับคดีซึ่งข้อกฎหมายหรือ
ข้อเท็จจริงที่อุทธรณ์หรือฎีกาจะไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณาพิพากษา พ.ศ. 2551
ซึ่งการที่
ศาลฎีกาจะมีคำสั่งดังกล่าวได้นั้น
องค์คณะผู้พิพากษาในศาลฎีกาจะต้องตรวจสำนวนประชุมปรึกษากัน
เหมือนคดีที่ทำคำพิพากษาตามปกติและทำบันทึกความเห็นแสดงเหตุผลว่าฎีกาของโจทก์ไม่มีผลที่จะ
เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างไร แล้วลงชื่อองค์คณะทั้งสามคนไว้ด้วย
หลังจากนั้นร่าง
คำสั่งและบันทึกความเห็นก็จะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
เช่นเดียวกันกับคดีที่ทำคำพิพากษาตามปกติก่อนที่จะส่งไปอ่านให้คู่ความฟัง......
อ่านต่อ...
≤≤ ลักษณะบ่งเฉพาะ (distinctive character) อาจกล่าวได้ว่า
หมายถึงความเด่นความมีลักษณะ
พิเศษ ลักษณะเฉพาะของเครื่องหมายการค้า
ซึ่งย่อมแตกต่างหรือตรงกันข้ามกับลักษณะสามัญธรรมดา
(generic) ตลอดจนไม่เป็นการพรรณนาหรือเล็งลักษณะหรือคุณสมบัติของสินค้า (deriptive
or suggestive)
ลักษณะบ่งเฉพาะเป็นอย่างไรนั้นกฎหมายไม่ได้บัญญัติให้นิยามความหมายไว้เป็นพิเศษมีแต่เพียงตัวอย่าง
ในกรณีต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งภาพประดิษฐ์ด้วย.....อ่านต่อ
≤≤ แม้จำเลยถูกจับทั้งสองคดีในวันเดียวกัน
แต่วันถูกจับมิใช่วันกระทำความผิด เมื่อวันเวลา
กระทำความผิดในคดีก่อนและคดีนี้ทั้งในฐานลักทรัพย์และรับของโจรต่างกัน ทั้ง
ทรัพย์ที่ยึดได้ก็เป็นทรัพย์ของผู้เสียหายคนละคนต่างรายกัน แม้คดีก่อนศาลชั้นต้นจะ
มีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่เมื่อการกระทำความผิดของจำเลยในคดีก่อนและคดีนี้เป็น
การกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้ย่อมไม่เป็นฟ้องซ้ำ
อ่านต่อ...